เจ้าพระยามหานคร (CMC) Kick Off เตรียมขายหุ้นไอพีโอ อสังหาฯ ตัวแรกของปี พร้อมก้าวกระโดดสู่หนึ่งในผู้นำตลาดคอนโดมิเนียม
บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด (มหาชน) หรือ CMC บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำตามแนวเส้นรถไฟฟ้า เตรียมระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ MAI พร้อมก้าวกระโดดสู่หนึ่งในผู้นำตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยซึ่งมีความโดดเด่นในที่พักอาศัยประเภทคอนโดมิเนียม เพื่อรองรับลูกค้าให้ได้ทุกกลุ่มเป้าหมาย
เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2561 นายแพทย์วิเชียร แพทยานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด (มหาชน) หรือ CMC กล่าวว่า บริษัทมีเป้าหมายการดำเนินธุรกิจในการเป็นผู้ประกอบการชั้นนำในธุรกิจพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร โดยโครงการของบริษัทฯ จะเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีลักษณะโดดเด่น และให้ความคุ้มค่าสูง โดยบริษัทฯประสบความสำเร็จในการพัฒนาโครงการที่พักอาศัยมากว่า 24 ปี ซึ่งบริษัทฯมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม ภายใต้แบรนด์ที่ได้รับการยอมรับอย่างดี ได้แก่ ชาโตว์ อินทาวน์ ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงสำหรับคอนโดมิเนียมประเภท Low-Rise นอกจากนี้ยังมีแบรนด์ แบงค์คอก ฮอไรซอน และแบงค์คอก เฟลิซ บริษัทฯยังพัฒนาโครงการทาวน์โฮม และบ้านเดี่ยวระดับพรีเมี่ยม ภายใต้แบรนด์ คาซ่า ยูเรก้า, คาซ่า ดีว่า และ เดอะ ริช พร้อมมุ่งเน้นพัฒนาโครงการตามแนวเส้นทาง โครงการรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ ล่าสุดบริษัทฯได้เตรียมเข้าจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ MAI ภายในไตรมาส 4 ของปี 2561 นี้ เพื่อก้าวสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำในตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย
“ ในระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมาบริษัทฯมีผลประกอบการที่ดีอย่างต่อเนื่อง และสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงมาโดยตลอด โดยบริษัทฯมีรายได้รวม 1,525 ล้านบาทในปี 2560 , 2,091 ล้านบาท ในปี 2559 และ1,419 ล้านบาท ในปี 2558 โดยมีกำไรขั้นต้น 634 ล้านบาทในปี 2560, 879 ล้านบาท ในปี 2559 และ 558 ล้านบาทในปี 2558 และมีกำไรสุทธิ 127 ล้านบาท ในปี 2560 , 156 ล้านบาท ในปี 2559 และ 47 ล้านบาทในปี 2558 ตามลำดับ
นายแพทย์วิเชียร กล่าวเสริมว่า “ปัจจุบันบริษัทฯมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ซึ่งสร้างเสร็จพร้อมโอน 25 โครงการ มูลค่าคงเหลือกว่า 3,800 ล้านบาท ซึ่งสามารถโอนรับรู้รายได้ได้ทันทีและมีโครงการระหว่างก่อสร้างอีก 3 โครงการ มูลค่าประมาณ 2,800 ล้านบาท ซึ่งจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ 1 โครงการ และจะแล้วเสร็จในปี 2562 จำนวน 2 โครงการ คาดว่าโครงการเหล่านี้จะสร้างผลกำไรและการเติบโตให้แก่บริษัทฯอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทฯยังมีโครงการที่จะพัฒนาเพิ่มเติมตามแผนปัจจุบันอีกทั้งหมด 10 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปี
ขณะนี้ CMC มีทุนจดทะเบียน 1,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นทุนที่ชำระแล้ว 750 ล้านบาท และมีแผนจะระดมทุนด้วยการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) จำนวน 250,000,000 หุ้น (พาร์ 1 บาท/หุ้น) หรือคิดเป็นไม่เกิน 25% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดให้แก่ บุคคลทั่วไป และ นักลงทุน ภายในไตรมาส 4 ปีนี้ โดยบริษัทฯ มีแผนจะนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนไปซื้อที่ดิน และใช้ในการลงทุนโครงการใหม่ ตลอดจนเสริมสร้างความเข้มแข็งทางการเงิน จากปัจจุบันมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ที่ประมาณ 2 เท่าให้มีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น และเพิ่มเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานเพื่อต่อยอดความแข็งแกร่งให้ธุรกิจ และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ ผู้ถือหุ้นทุกรายอย่างต่อเนื่อง”
นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง จำกัด (มหาชน) ที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ CMC Group กล่าวว่า “เรามั่นใจว่าหุ้นไอพีโอของ CMC จะได้รับความสนใจอย่างมากจากนักลงทุน เนื่องจากบริษัทฯมีพื้นฐานทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง คณะผู้บริหารมีประสบการณ์ความสำเร็จที่พิสูจน์แล้วมาร่วม 24 ปี และมีแผนการรับรู้รายได้จากการดำเนินธุรกิจที่ดี ซึ่งการเข้าจดทะเบียนของ CMC ในครั้งนี้คาดว่าจะช่วยลดต้นทุนด้านการเงินของบริษัทฯลงและทำให้ผลการดำเนินงานแข็งแกร่งขึ้น และจะเป็นหุ้นอสังหาริมทรัพย์ขนาดกลางที่พร้อมจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง สร้างผลตอบแทนที่ดีให้นักลงทุนได้อย่างแน่นอน”
ดูข้อมูลทั้งหมดของ CMC GROUP ได้ที่ : www.cmc.co.th
หรือข้อมูลนักลงทุนสัมพันธ์ : www.cmc.co.th/ir หรือโทร 1172
Necessary cookies are absolutely essential for the website to function properly. This category only includes cookies that ensures basic functionalities and security features of the website. These cookies do not store any personal information.
Any cookies that may not be particularly necessary for the website to function and is used specifically to collect user personal data via analytics, ads, other embedded contents are termed as non-necessary cookies. It is mandatory to procure user consent prior to running these cookies on your website.