ไหว้พระ 10 วัด สืบสิริสวัสดิ์ 10 รัชกาล

     เที่ยวปีใหม่กับกิจกรรม “ไหว้พระ 10 วัด สืบสิริสวัสดิ์ 10 รัชกาล” ที่กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม ได้จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 2559-2 มกราคม 2560 ใครไม่ได้ไปเที่ยวต่างจังหวัด ก็มาร่วมอิ่มบุญง่าย ๆ ด้วยกิจกรรมนี้กัน

     “ไหว้พระ 10 วัด สืบสิริสวัสดิ์ 10 รัชกาล” ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ที่กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม ได้จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 2559-2 มกราคม 2560 ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. โดยให้บริการด้วยรถโดยสารปรับอากาศยูโรทู ขสมก. จำนวนทั้งสิ้น 12 คัน ใครที่ช่วงสิ้นปีนี้ไม่มีแพลนที่จะไปเที่ยวต่างจังหวัดไกล ๆ สามารถมาเข้าร่วมกิจกรรมทั้ง 10 แห่ง ดังนี้


1. วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร


     พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ 1) ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์วัดโพธาราม (วัดโพธิ์) ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ครั้งกรุงศรีอยุธยา และให้เป็นวัดพระอารามหลวงประจำรัชกาล นอกจากนี้วัดโพธิ์ยังขึ้นชื่อว่าเป็นเสมือนมหาวิทยาลัยแห่งแรกของไทย เพราะเป็นแหล่งรวบรวมวิชาความรู้ด้านต่าง ๆ ทั้งประวัติศาสตร์ วรรณกรรม และการแพทย์ โดยจุดเด่นสำคัญคือพระพุทธไสยาสน์หรือพระนอน ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระพุทธไสยาสน์ที่มีลักษณะงดงามเป็นอันดับต้น ๆ ปิดทองเหลืองอร่ามทั้งองค์ พระพักตร์อิ่มเอิบ แต่ดูขรึมขลังงามสมส่วน และเปี่ยมพลังด้วยความศรัทธา

2. วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร

     พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงโปรดเกล้าฯ ให้มีการบูรณปฏิสังขรณ์วัดอรุณฯ วัดนี้เป็นพระอารามหลวงชั้นเอกที่งดงามพร้อมด้วยสถาปัตยกรรมและเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ หนึ่งในนั้นคือ พระปรางค์ ซึ่งถือเป็นสถาปัตยกรรมเด่นที่สุดของวัด และเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปสัมผัสความสวยงามได้อย่างใกล้ชิด ซึ่งประกอบด้วยกระเบื้องเคลือบ ถ้วยชามสมัยโบราณ เปลือกหอย เป็นลวดลายต่าง ๆ มากมาย อีกทั้งวิวโดยรอบยังสวยงาม ร่มรื่น และร่มเย็น เหมาะกับการเก็บภาพประทับใจจากวิวของวัด และวิวฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย

3. วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร

     วัดประจำรัชกาลในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 วัดเก่าแก่ที่สร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยา โดดเด่นด้วยอิทธิพลการตกแต่งที่ผสมผสานศิลปกรรมไทยและจีนได้อย่างสวยงามกลมกลืน เช่น บานประตูหน้าต่างประดับด้วยเสี้ยวกางแทนลายเทพนม หน้าบันพระอุโบสถและพระวิหารประดับกระเบื้องเคลือบสี จึงนับเป็นครั้งแรกที่มีการประยุกต์ศิลปกรรมไทย-จีน ได้อย่างประณีตเหมาะสม เป็นสัญลักษณ์แห่งศาสนสถานได้อย่างสง่าและงดงาม ภายในวิหารประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ปูนปั้น ผนังด้านนอกรอบพระระเบียงจารึกตำรายาและตำราหมอนวด บานประตูและหน้าต่างด้านนอกประกอบด้วยปูนปั้นเสี้ยวกางแบบไทยยืนอยู่บนประแจจีน

4. วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร

     พระอารามหลวงชั้นเอก ที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่ออุทิศถวายแด่พระสงฆ์คณะธรรมยุตินิกาย และเป็นวัดประจำรัชกาลในพระองค์ สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด คือ พระวิหารหลวง ที่ประดับภาพจิตรกรรมฝาผนังเกี่ยวกับ พระราชพิธีสิบสองเดือน ภาพสุริยุปราคาในสมัยรัชกาลที่ 4 และยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธสิหังคปฏิมากร ปางสมาธิ ซึ่งหลังจากพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต ได้มีการอัญเชิญพระบรมอัฐิ มาบรรจุที่พระพุทธอาสน์ของพระประธานองค์นี้อีกด้วย

5. วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร

     วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม สร้างขึ้นจากพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) และเป็นวัดในรัชกาลประจำพระองค์ เพื่อให้เป็นการแสดงแบบอย่างของช่างฝีมือโบราณ และเป็นแหล่งที่พัฒนาการศึกษาของเหล่าภิกษุสงฆ์ สิ่งที่น่าสนใจภายในวัดคือ “พระอุโบสถ” ทำจากหินอ่อนอิตาลีที่เดียวในประเทศไทย ประดิษฐานพระพุทธชินราชจำลอง นอกจากนี้โดยรอบบริเวณพระระเบียงของวัด ยังมีพระพุทธรูปโบราณปางต่าง ๆ หลากยุคและสมัยให้ได้เดินเล่นชมกันเพลิน ๆ

6. วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร

     วัดประจำรัชกาลในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ภายในวัดโดดเด่นด้วยลักษณะศิลปกรรมที่ผสมผสานระหว่างไทยและจีนได้อย่างลงตัว จุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจ นั่นคือ ส่วนในของพระอุโบสถ ที่มีพระประธานสององค์ตั้งอยู่คือพระพุทธสุวรรณเขต หรือหลวงพ่อโต ที่อัญเชิญมาจากวัดสระตะพาน เมืองเพชรบุรี และพระพุทธชินสีห์ จากวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร เมืองพิษณุโลก ที่มีความสวยงามและน่าสนใจเป็นอย่างมาก

7. วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร

     พระอารามหลวงที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อเป็นวัดประจำรัชกาลของพระองค์ และเป็นวัดประจำรัชกาลในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ตัวพระอุโบสถภายนอกสถาปัตยกรรมแบบไทยแท้ ประกอบด้วยลวดลายกระเบื้องเคลือบเบญจรงค์รูปเทพประนม (มือ) ภายในเป็นสถาปัตยกรรมโกธิค พระประธานคือ พระพุทธอังคีรส และที่น่าสนใจอีกอย่างคือ กระเบื้องเบญจรงค์ ทั้งพระอุโบสถ วิหาร เจดีย์ และระเบียงแก้ว ล้วนตกแต่งด้วยลายกระเบื้องเคลือบเบญจรงค์ทั้งสิ้น ซึ่งทุกแผ่นเขียนด้วยมือ รวมถึงออกแบบรูปทรงกระเบื้องขนาดต่าง ๆ ได้อย่างสวยงามอีกด้วย


8. วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร

     ว่ากันว่าในทางสถาปัตยกรรม วัดแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นวัดที่มีการออกแบบได้สัดส่วนงดงามที่สุดในสมัยรัตนโกสินทร์ ประชาชนส่วนใหญ่นิยมมากราบไหว้นมัสการพระพุทธรูปสำคัญสามองค์ในวัด คือ พระศรีศากยมุนี, พระพุทธตรีโลกเชษฐ์ และพระพุทธเสรฏฐมุนี นอกจากนี้ภายในวัดก็ยังมีพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 ตั้งอยู่ด้วย เพราะวัดสุทัศน์นั้นถือว่าเป็นวัดประจำรัชกาล โดยที่ผ้าทิพย์ด้านหน้าพุทธบัลลังก์พระศรีศากยมุนีเป็นที่บรรจุของพระบรมราชสรีรางคารของพระองค์อีกด้วย

9. วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก

     เป็นวัดที่สร้างขึ้นตามแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ซึ่งได้มีพระราชดำรัสให้จัดสร้างขึ้นให้เป็นวัดขนาดเล็กที่เรียบง่าย มุ่งเน้นประโยชน์ใช้สอยสูงสุด นอกจากนี้อุโบสถยังมีลักษณะเป็นสถาปัตยกรรมสมัยโบราณผสมผสานกับสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ และยังเป็นศูนย์รวมแห่งจิตใจของชุมชน ที่ตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียง และเพื่อใช้เป็นสถานที่ประกอบกิจกรรมต่าง ๆ ในการเผยแผ่ศีลธรรม และจริยธรรมเพื่อการพัฒนาชุมชน

10. วัดวชิรธรรมสาธิตวรวิหาร (วัดทุ่งสาธิต)

     วัดที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชนชาวพระโขนงมาช้านาน สร้างขึ้นโดยคหบดีชาวลาวชื่อ นายวันดี ที่อพยพมาจากเวียงจันทน์ ต่อมาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ์ รับวัดทุ่งสาธิตไว้ในพระอุปถัมภ์ เป็นอารามหลวงได้พระราชทานนามว่า วัดวชิรธรรมสาธิตวรวิหาร เมื่อเข้ามาภายในจะสัมผัสได้กับความงดงามของพระอุโบสถ ที่ประดับประดาด้วยเสาไม้สักแกะสลักลายทาสีทองบนพื้นสีแดง และประดิษฐานพระประธานปางมารวิชัยสีทององค์ใหญ่ ขนาบข้างด้วยพระพุทธรูปปางสมาธิที่สวยงามยิ่ง

 

ข้อมูล travel.kapook.com,www.prd.go.th/

Facebook
Twitter
Pinterest
Print

Related Posts