Checklist ไอเท็มรับหน้าฝน ควรมีติดคอนโด

Checklist ไอเท็มรับหน้าฝน ควรมีติดคอนโด

สำหรับฤดูฝนในช่วงนี้ที่สภาพอากาศแปรปรวนอยู่บ่อยครั้ง หลายๆคนคงจะเผชิญกับปัญหาที่มาพร้อมกับหน้าฝนนี้ เช่น การเปียกฝนเมื่อเดินทางออกไปข้างนอก หรือสภาพความอับชื้นภายในห้อง ทำให้การใช้ชีวิตประจำวันมีความยุ่งยากขึ้น วันนี้ CMC We Care จึงได้เตรียม “Checklist ไอเท็มรับหน้าฝน ควรมีติดคอนโด” มาแนะนำเพื่อให้ลูกบ้าน CMC ไม่ต้องกังวลกับการจัดการปัญหายุ่งยากอีกต่อไปในช่วงหน้าฝนนี้ค่ะ

ราวตากผ้าพับได้
เนื่องจากการตากผ้าในช่วงหน้าฝนนั้นเป็นเรื่องที่ลำบากมาก เพราะต้องคอยระวังว่าฝนจะตกมาตอนไหน ดังนั้นการมีราวตากผ้าพับได้สักอันไว้ในคอนโดจะช่วยได้เยอะมาก เพราะสามารถเคลื่อนย้ายได้ง่ายเมื่อฝนตก หรือถ้าเป็นแบบแขวนก็สามารถแขวนไว้ตรงที่ฝนสาดไม่ถึงได้

ร่มกันฝน
เป็นไอเท็มจำเป็นในช่วงฤดูฝนที่ทุกบ้านต้องมี นอกจากนี้ยังจำเป็นต้องพกติดกระเป๋าไว้ด้วยเมื่อต้องเดินทางออกจากบ้าน เพื่อป้องกันไม่ให้เราเปียกฝน เสี่ยงไม่สบายได้ค่ะ

ที่เเขวนร่มแบบติดผนัง
ที่เเขวนร่มแบบติดผนังมีประโยชน์อย่างมากสำหรับชาวคอนโด เพราะช่วยให้ประหยัดพื้นที่ในการเก็บร่มได้เป็นระเบียบและนำออกไปใช้งานได้ง่าย และยังใช้เป็นไอเท็มตกแต่งห้องให้ห้องดูมีความมินิมอลเพิ่มขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถแขวนอุปกรณ์ตกแต่งห้องอื่นๆหรือจะแขวนของใช้ต่างๆ เช่น หมวกหรือกระเป๋าได้เช่นกัน

ที่วางร่มแบบตั้งพื้น
อาจจะเป็นถังหรือตะกร้ากันน้ำสำหรับวางร่มที่ใช้แล้วเมื่อกลับถึงคอนโด โดยควรจะวางไว้ที่ประตูทางเข้าสำหรับเก็บร่มเป็นจุดแรก เพื่อไม่ให้หยดน้ำฝนจากร่มเปียกพื้นห้องระหว่างเดินเข้าห้อง และยังสามารถวางเป็นของตกแต่งหรืออาจจะเพิ่มไอเท็มตกแต่งอื่นๆเช่น ดอกไม้หรือใบไม้เพิ่มเติมให้สวยงามยิ่งขึ้น

กระเป๋ากันน้ำ
เป็นไอเท็มที่สำคัญมากๆสำหรับเวลาที่ต้องการออกไปข้างนอกในช่วงหน้าฝน เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งของสำคัญ เช่น กระเป๋าตังค์ โทรศัพท์และสิ่งของอื่นๆ ต้องเปียกฝนค่ะ

พรมเช็ดเท้า
พรมเช็ดเท้าก่อนเข้าห้องเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับฤดูฝน โดยควรเลือกใช้พรมที่ซึมซับน้ำได้มาก และแห้งได้รวดเร็ว ซึ่งควรจะต้องซักทำความสะอาดบ่อยๆ เพื่อป้องกันการสะสมของแหล่งเชื้อโรคจากพรมเช็ดเท้า

เครื่องอบผ้าลมร้อน
เพราะการตากผ้าในฤดูฝนเป็นเรื่องที่ยากลำบากพอสมควร การมีเครื่องอบผ้าลมร้อนไว้ติดคอนโดสามารถกำจัดปัญหาเสื้อผ้ามีกลิ่นเหม็นอับ รวมถึงเชื้อราและแบคทีเรียที่เกิดจากความชื้นสะสมในผ้าได้ สามารถซัก อบผ้าให้แห้ง และพับผ้าเก็บได้ทันที ทำให้ช่วยประหยัดพื้นตากผ้าในคอนโดที่มีจำกัดอีกด้วย

ด้วยไอเท็มรับหน้าฝนเด็ดๆเหล่านี้ จะช่วยให้คุณลูกบ้าน CMC ของเราไร้ความกังวลกับปัญหาที่มาพร้อมฤดูฝนได้อย่างมาก สามารถเพลิดเพลินกับบรรยากาศเย็นสบาย มองดูวิวฝนตกพร่ำๆ ฟังเพลงชิลล์ๆในห้องได้อย่างสบายใจค่ะ
CMC We Care เพราะเราใส่ใจ… ทุก “ความสุข” ของคุณ

เปลี่ยนมุมเล็กๆ ในบ้านให้เป็น Home Cafe’ สุดคิ้วท์

เปลี่ยนมุมเล็กๆในบ้านให้เป็น Home Cafe’ สุดคิ้วท์

หากนึกถึงสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ นั่งทำงานหรือนั่งเล่นชิลล์ๆในยุคนี้ หลายๆคนคงนึกถึง Cafe’ เป็นอย่างแน่นอน และเทรนด์การตกแต่งที่อยู่อาศัยสไตล์ Home Cafe’ ก็กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน วันนี้ CMC We Care ขอแนะนำการตกแต่งมุมในบ้านให้เป็น Home Cafe ได้อย่างง่ายๆ สไตล์มินิมอล น่ารักๆ เกาหลีเกาใจ ถูกใจลูกบ้าน CMC แน่นอนค่ะ

มุมของว่างริมหน้าต่าง
เลือกมุมหน้าต่างจัดโต๊ะสำหรับทานของว่างหรือจิบกาแฟในตอนเช้า โดยเปิดม่านให้สามารถมองดูวิวชิลล์ๆ และรับแสงธรรมชาติจากด้านนอก สามารถช่วยเพิ่มความผ่อนคลายได้ดี

มุมจิบกาแฟริมระเบียง
สำหรับบ้านที่มีระเบียง ต้องไม่พลาดที่จะจัดมุมสำหรับจิบกาแฟและรับแสงอาทิตย์อ่อนๆในตอนเช้า เพื่อเพิ่มพลังและความสดชื่นก่อนออกไปทำงานหรือทำกิจกรรมต่างๆ

ตกแต่งด้วยโทนสีกาแฟ
หากนึกถึงคาเฟ่ สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ กาแฟ ดังนั้นการตกแต่งบ้านสไตล์ Home Cafe’ ก็มักจะใช้เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งเป็นโทนสีของกาแฟ หรือสีน้ำตาลนั่นเอง เช่น เกาอี้ไม้ ตะกร้าหวาย หรือแจกันสีน้ำตาลเป็นต้น ซึ่งอาจจะ Mix and Match กับโทนสีขาวและดำ เพื่อให้ได้ความลงตัวมากยิ่งขึ้น

เสริมด้วยโคมไฟ Warm White สร้างบรรยากาศคาเฟ่
การใช้โคมโฟ Warm White จะช่วยให้ได้แสงที่ละมุนนุ่มนวล ช่วยสร้างบรรยากาศอบอุ่น ผ่อนคลาย และช่วยให้ถ่ายรูปออกมาได้สวยเหมือนอยู่ในร้านคาเฟ่นอกบ้าน

และนี่ก็เป็นไอเดียเล็กๆน้อยๆ สำหรับการตกต่างมุมคาเฟ่ง่ายๆในบ้าน เพียงเลือกมุมที่ชอบสักมุมมาจัดตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งที่เข้ากับสไตล์ Home Cafe’ เพียงเท่านี้เราก็ได้ได้มุมคาเฟ่ที่อบอุ่น เรียบง่าย น่าพักผ่อน โดยไม่ต้องออกไปนอกบ้านเลยค่ะ
CMC We Care เพราะเราใส่ใจ… ทุก “ความสุข” ของคุณ

5 ไอเดียแต่งห้องนอน ให้อบอุ่นน่าอยู่ช่วงหน้าฝน

5 ไอเดียแต่งห้องนอน ให้อบอุ่นน่าอยู่ช่วงหน้าฝน

ในช่วงฤดูฝนนี้ การออกไปทำกิจกรรมต่างๆนอกบ้านอาจจะเต็มไปด้วยอุปสรรค เช่น รถติดหนักหรือการเปียกฝน ดังนั้นในช่วงนี้หลายๆคนคงจะนึกถึงการอยู่ในห้องนอนมากกว่า แต่การอยู่แต่ในห้องนอนก็อาจจะทำให้เกิดความน่าเบื่อ และอึมครึมตามสภาพอากาศของฤดูฝน
CMC We Care จึงได้เตรียม 5 ไอเดียแต่งห้องนอน ให้อบอุ่น พักผ่อนได้สบาย ในช่วงหน้าฝน ให้ลูกบ้านครอบครัว CMC ได้นำไปเปลี่ยนให้ห้องที่ดูอึมครึม กลับมามีชีวิตชีวา แม้ในวันฝนตกพรำๆค่ะ

1. ย้ายเตียงนอนมาชิดมุมหน้าต่าง
การวางเตียงนอนให้ชิดมุมหน้าต่างสักมุมในห้องนอน จะช่วยเพิ่มความสว่างภายในห้อง ลดความมืดอึมครึม ช่วยให้ห้องดูโปร่งโล่ง และทำให้สามารถมองเห็นวิวฝน ช่วยให้รู้สึกเย็นสบาย ลดความอึดอัด ตึงเครียดลงได้ นอกจากนี้ต้องสังเกตุจุดรั่วซึมของบานหน้าต่างด้วย

เพื่อไม่ให้น้ำซึมเข้ามาสร้างความเสียหายภายในห้อง และต้องไม่ลืมที่จะปิดหน้าต่างเมื่อฝนตกด้วยนะคะ

2. ประดับด้วยไฟ LED
ฤดูฝนมักจะมาพร้อมความหนาวเย็น เราจึงต้องเพิ่มความอบอุ่นภายในห้อง การประดับตกแต่งด้วยหลอดไฟ LED สวยๆ นอกจากจะเพิ่มความสวยงามให้ห้องนอนแล้วยังช่วยมอบความอบอุ่นภายในห้องอีกด้วย โดยควรเลือกใช้ไฟ LED สีเหลืองอ่อน อาจจะวางตกแต่งบนผ้าม่าน หัวเตียง หรือตามพื้นก็ได้ตามใจชอบ

3. ประดับด้วยต้นไม้
เนื่องจากห้องนอนอาจจะเป็นพื้นที่ที่ไม่ได้กว้างใหญ่นัก จึงควรเลือกต้นไม้ขนาดเล็กมาวาง เช่น ต้นไม้มงคล หรือต้นไม้ฟอกอากาศ อย่าง กระบองเพชร ลิ้นมังกร เดหลี หรือต้นวาสนาราชินี เป็นต้น ประโยชน์การประดับด้วยต้นไม้ นอกจากจะช่วยเพิ่มสีสัน ให้ความมีชีวิตชีวาแล้ว ยังช่วยให้ออกซิเจน และดูดคาร์บอนไดออกไซน์ ทำให้อากาศภายในห้องบริสุทธิ์ขึ้นอีกด้วยค่ะ

4. วางแจกันดอกไม้ตกแต่ง
เพื่อเพิ่มความสดใส มีสีสัน และสดชื่นในช่วงหน้าฝนที่ชุ่มช่ำนี้ การวางแจกันดอกไม้ภายในห้องห้องสามารถช่วยได้ไม่น้อย นอกจากสีสันและความสวยงามแล้ว ดอกไม้ยังให้กลิ่นหอม ช่วยผ่อนคลายและบรรเทาความเครียดได้ด้วยเช่นกัน

5. เพิ่มโซนสำหรับทำกิจกรรมที่ชอบ
การนอนอยู่ในห้องเฉยๆ นานๆ อาจจะทำให้เกิดความน่าเบื่ออยู่ไม่น้อย เพื่อลดความน่าเบื่อเหล่านี้ การทำงานอดิเรกหรือกิจกรรมที่ชอบเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ จึงควรจัดหามุมเล็กๆในห้องนอนสักมุมสำหรับกิจกรรมเหล่านี้ เช่น มุมวาดรูปหรือถักไหมพรม เลือกตามความสนใจของเจ้าของห้องได้เลยค่ะ

ด้วย 5 ไอเดียที่กล่าวมาข้างต้น จะช่วยให้ห้องนอนน่าอยู่ นอนพักผ่อนได้สบายมากขึ้น แม้ในวันที่ฟ้าฝนไม่เป็นใจ ลูกบ้าน CMC อย่าลืมนำไปใช้ปรับแต่งห้องกันดูนะคะ
CMC We Care เพราะเราใส่ใจ… ทุก “ความสุข” ของคุณ

 5 ทริคตากผ้าหน้าฝน ในคอนโด ให้แห้งไว ไร้กลิ่นอับ

5 ทริคตากผ้าหน้าฝน ในคอนโด ให้แห้งไว ไร้กลิ่นอับ

เมื่อเข้าช่วงหน้าฝน ปัญหาที่ชาวคอนโดหลายๆคนต้องเจอ คงจะหนีไม่พ้นเรื่องเสื้อผ้ามีกลิ่นอับ เพราะเป็นช่วงที่มีฝนตกติดต่อกันหลายวัน และด้วยขนาดพื้นที่คอนโดที่จำกัด ทำให้ผ้าที่ตากอยู่ไม่แห้งสนิทสักที ดังนั้น CMC We Care เลยได้เตรียม ทริคตากผ้าหน้าฝน มาแนะนำให้ลูกบ้านของเรา ได้ตากผ้าให้แห้งไว ไร้กลิ่นเหม็นอับในช่วงฤดูฝนนี้ค่ะ
1. ตากผ้าในพื้นที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวกและแสงแดดส่องถึงได้ ควรตากผ้าในพื้นที่ที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก มีลมพัดเข้ามาถึง และแสงแดดส่องถึงได้ เพื่อให้เสื้อผ้าแห้งเร็ว ไร้กลิ่นอับ
2. ไม่ตากผ้าหนาแน่น และชิดกันจนเกินไป ไม่ควรตากผ้าให้ชิดแน่นกันจนเกินไป ควรจะตากกระจายผ้าเพื่อเว้นช่องว่างให้อากาศถ่ายเทได้ด้วย เพื่อลดความอับชื้นและทำให้เกิดเกลิ่นเหม็น
3. ใช้ผงซักผ้าและน้ำยาปรับผ้านุ่มสูตรลดกลิ่นอับ การใช้ผงซักผ้าและน้ำยาปรับผ้านุ่มสูตรพิเศษในช่วงหน้าฝนนี้ เช่น สูตรตากในที่ร่มหรือสูตรลดกลิ่นอับ สามารถช่วยให้การตากผ้าในช่วงฤดูฝนนี้ไร้กลิ่นอับและแห้งเร็วขึ้นได้อย่างมาก
4. ใช้พัดลมเป็นตัวช่วย เมื่อจำเป็นต้องตากผ้าในคอนโดเพื่อหลบฝน การเปิดพัดลมเป่ามาที่ผ้าสามารถช่วยไล่ความชื่นออกจากเสื้อผ้า และช่วยถ่ายเทอากาศได้ดีอย่างมาก เพื่อให้ผ้าแห้งเร็ว ไร้กลิ่นอับโดยไม่ต้องง้อแสงแดด
5. ตากผ้าหลังซักเสร็จทันที หลังจากซักผ้าเสร็จแล้วควรจะรีบตากเลยทันทีทั้งการซักเครื่องและซักมือ เพราะการปล่อยให้เสื้อผ้าเปียกวางทับถมกันจะทำให้เกิดกลิ่นเหม็นอับได้ง่าย โดยเฉพาะในฤดูฝนนี้ที่อาการมีความชื่นสูงอยู่แล้ว
และนี่ก็เป็น “5 ทริคตากผ้าหน้าฝนในคอนโด ให้แห้งไว ไร้กลิ่นอับ” ที่ CMC We Care เตรียมมาแนะนำให้กับลูกบ้านครอบครัว CMC ของเรา เพื่อให้ลูกบ้านได้สบายใจ ไร้กังวลเกี่ยวกับการจัดการกลิ่นอับของเสื้อผ้าในช่วงหน้าฝนนี้ค่ะ
CMC We Care เพราะเราใส่ใจ… ทุก “ความสุข” ของคุณ

เคล็ดลับฉบับง่ายๆ เตรียมความพร้อมดูแลคอนโดช่วงหน้าฝน

เคล็ดลับฉบับง่ายๆ เตรียมความพร้อมดูแลคอนโดช่วงหน้าฝน

ฤดูที่ต้องดูแลคอนโดเป็นพิเศษคงจะหนีเป็นพ้นฤดูฝนในช่วงนี้ เพราะเป็นช่วงที่มักจะมีปัญหาและเสี่ยงอันตรายมากที่สุด และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายในคอนโด วันนี้ CMC We Care จึงได้รวบรวม “เคล็ดลับฉบับง่ายๆ ดูแลคอนโดช่วงหน้าฝน” มาให้ลูกบ้านครอบครัว CMC ได้นำไปใช้ดูแลคอนโดกันค่ะ

ปิดหน้าต่างให้มิดชิดทันทีเมื่อฝนตก
สำหรับชาวคอนโด หน้าต่างเป็นจุดหลักที่ฝนจะสาดเข้ามา ทำให้พื้นคอนโดเสียหาย ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการซ่อมแซมครั้งใหญ่ และอาจจะทำให้ผู้อยู่อาศัยลื่นล้ม เป็นอันตรายต่อร่างกายได้ หน้าต่างจึงเป็นจุดที่ต้องเช็คเป็นพิเศษว่าปิดมิดชิดหรือไม่เมื่อฝนตก

ตรวจเช็ครอยรั่วซึม
การที่คอนโดมีรอยรั่วซึมต่างๆ เมื่อถึงฤดูฝนจะทำให้น้ำเข้ามาตามรอยรั่วซึมนั้น ซึ่งอาจจะทำให้เกิดเป็นปัญหาใหญ่ได้ในภายหลัง ดังนั้นเมื่อสังเกตเห็นรอยรั่วซึมเล็กๆก็ควรจะรีบซ่อมแซมแก้ไขทันที เพื่อป้องการไม่ให้น้ำซึมเข้ามา

ลดกลิ่นอับภายในห้อง
อีกหนึ่งปัญหากวนใจที่เข้ามาพร้อมหน้าฝนคือ ปัญหากลิ่นอับกวนใจ เนื่องจากฝนมักจะมาพร้อมความชื้น ทำให้เกิดกลิ่นอับได้ โดยเฉพาะกลิ่นอับจากเสื้อผ้าเปียกฝนที่เราใส่ออกไปข้างนอก เมื่อกลับมาถึงบ้านอาจจะต้องผึ่งให้แห้งก่อนใส่ลงตระกร้าไว้ซัก หรือถ้าจะให้ดีที่สุดควรซักทันทีเลย เพื่อป้องกันกลิ่นอับภายในห้อง

ระวังปัญหาไฟช็อต
ฤดูฝนมาพร้อมกับน้ำ ซึ่งไม่ควรเจอกันกับไฟฟ้า เพราะจะทำให้เกิดไฟช็อต ซึ่งอาจจะเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ ดังนั้นควรป้องกันโดยติดตั้งเครื่องตัดไฟ เลี่ยงการใช้ไฟฟ้าหลายอย่างกับปลั๊กตัวเดียว และคอยตรวจเช็คสายไฟและปลั๊กไฟว่าชำรุดหรือไม่ เป็นต้น

หมั่นทำความสะอาดระเบียง
ในช่วงฤดูฝนนี้ควรหมั่นทำความสะอาดระเบียงเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันไม่ให้มีน้ำขัง ถ้าวางเครื่องซักผ้าไว้ที่เบียงก็ควรหาที่คลุมกันฝน และใช้ที่รองยกเครื่องสูงจากพื้นเพื่อป้องกันระดับน้ำฝน รวมถึงคอยเช็คท่อระบายน้ำด้วยว่ามีอะไรอุดตันหรือไม่

และนี่ก็เป็นเคล็บลับเล็กๆน้อยๆ ทำได้ง่ายๆที่ทาง CMC We Care ได้เลือกมาแนะนำให้ลูกบ้านของเรานำไปใช้ดูแลคอนโด เพื่อเพิ่มความอุ่นใจ ไร้กังวลเกี่ยวกับปัญหาคอนโดในช่วงหน้าฝนนี้ค่ะ
CMC We Care เพราะเราใส่ใจ… ทุก “ความสุข” ของคุณ

How to ตรวจรับห้องคอนโดด้วยตัวเองให้ไม่พลาด! ก่อนรับโอน

How to ตรวจรับห้องคอนโดด้วยตัวเองให้ไม่พลาด! ก่อนรับโอน

หลังจากการตัดสินเลือกซื้อคอนโดแล้ว สิ่งต่อไปที่ต้องให้ความสำคัญก่อนการโอนห้องคอนโด คือ “การตรวจรับคอนโด” เพื่อเช็คความเรียบร้อยของโครงสร้างและงานระบบต่างๆ ซึ่งบางคนอาจจะเลือกใช้บริการตรวจรับห้องจากมืออาชีพ แต่สำหรับคนที่ไม่อยากมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ก็สามารถตรวจรับห้องคอนโดได้ด้วยตัวเองเช่นกัน โดยอาจจะต้องอาศัยความละเอียด และใส่ใจมากเป็นพิเศษ เพื่อที่จะได้ไม่พลาดจุดที่ต้องแก้ไข ปรับเปลี่ยนหรือซ่อมแซมให้เสร็จก่อนโอนและเข้าอยู่อาศัย
CMC We Care แนะนำ “วิธีตรวจรับคอนโดด้วยตัวเอง” ที่จะช่วยให้ลูกบ้าน CMC สามารถตรวจรับห้องคอนโดด้วยตัวเองได้ง่ายขึ้น และยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วยค่ะ

ผนัง
ผนังห้องจะต้องเรียบ ไม่มีรอยร้าวใดๆ แม้แต่รอยร้าวเล็กๆที่คาดว่าจะไม่ส่งผลต่อเรื่องโครงสร้าง แต่อาจจะทำให้น้ำซึมเข้าไปส่งผลให้เกิดปัญหาในอนาคต

ประตู หน้าต่าง
ตรวจสอบดูว่าประตูและหน้าต่างปิดได้สนิทหรือไม่ ถ้าหากเป็นบานเลื่อนต้องไม่ตกราง วงกบต้องอยู่ในสภาพดี ไม่ชำรุด และระบบล็อกของประตู หน้าต่าง ต้องทำงานได้ปกติ

ฝ้าเพดาน
ให้สังเกตรอยต่อของฝ้าเพดานว่าเรียบสนิทติดกัน ไม่แอ่นหรือโค้งงอ ตรวจสอบรอยรั่วซึม และควรจะปีนขึ้นไปตรวจสอบเหนือฝ้า เพื่อเช็คความเรียบร้อยของการเดินสายไฟ ฉนวนกันความร้อน และคราบน้ำรั่ว

ห้องน้ำ
เช็คพื้นห้องน้ำว่าลาดเอียงไปทางท่อระบายน้ำหรือไม่ เพื่อให้น้ำไหลระบายได้ดี ตรวจสอบท่อระบายน้ำต้องไม่มีสิ่งอุดตัน ลองกดชักโครก เปิดปิดก๊อกน้ำ ฝักบัว เช็คว่าน้ำไหลปกติและปิดได้สนิท และสุดท้ายเช็คจุดรั่วซึมของน้ำ

ระบบไฟ
ให้ลองเปิดปิดหลอดไฟว่าทำงานปกติไหม ตรวจเช็คปลั๊กไฟว่าถูกติดตั้งเรียบร้อย เหมาะสมกับการใช้งานหรือไม่ และทดสอบเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าในห้องว่าเปิดทำงานได้ปกติหรือไม่

การตรวจรับห้องเป็นขั้นตอนในการซื้อคอนโดที่สำคัญ ต้องทำอย่างละเอียดและใส่ใจ แต่อย่างไรก็ตาม การเลือกซื้อคอนโดที่มีความใส่ใจในทุกๆรายละเอียดการก่อสร้าง ยังเป็นผลดีต่อผู้อยู่อาศัยอย่างมาก เพื่อให้ได้คุณภาพคอนโดที่ดี เช่นเดียวกับทุกโครงการของ CMC ที่มุ่งพัฒนาโครงการให้ได้คุณภาพ เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีที่สุดของลูกบ้านครอบครัว CMC
CMC We Care เพราะเราใส่ใจ… ทุก “ความสุข” ของคุณ

ดีอย่างไร ถ้าบ้าน… ได้อยู่ ใกล้ถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน

ดีอย่างไร ถ้าบ้าน…ได้อยู่ ใกล้ถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน

การเลือกซื้อบ้านซักหลังหนึ่ง หลายคนคงนึกถึงราคา, จำนวนห้องนอน, จำนวนห้องน้ำ, วัสดุก่อสร้าง, เฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ แต่หัวใจสำคัญของการเลือกบ้านคือ “ทำเล” ที่บอกว่าสำคัญเพราะบ้านไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ และเป็นปัจจัยภายนอกที่เราควบคุมไม่ได้ นอกจากนี้ยังรวมถึง “ถนน” ที่ผ่านหน้าบ้านของเรา ลองสังเกตุดูว่าบ้านแต่ละหลังก็มีถนนที่ต่างกันออกไป บ้างถนนเล็ก ถนนใหญ่ เป็นซอยตัน อยู่ใกล้แยกไฟแดง เป็นต้น ทั้งหมดนี้ล้วนมีผลต่อราคาบ้านและการอยู่อาศัยทั้งสิ้น มาดูกันว่า บ้านที่ทำเลติดถนนใหญ่ มันดียังไง

ความโดดเด่นของโครงการ

โครงการที่ติดถนนใหญ่มักจะดูโดดเด่นกว่า และมองเห็นได้ตั้งแต่ระยะไกล เพราะฉะนั้นความโดดเด่นจึงมีมากกว่าเมื่อเทียบกับบ้านที่อยู่ในซอย

ความปลอดภัย

เป็นเรื่องสำคัญมาก บ้านที่ติดถนนใหญ่ เราสามารถออกมาจากบ้านแล้วเรียกรถได้เลย ในขณะที่ถ้าอญึ่ในซอยนั้น บางทีเรานั่งแท็กซี่เข้าซอยลึกๆกลางคืน ก็จะอันตรายเกินไป ดังนั้นความปลอดภัยในการเข้าซอยกับติดถนนใหญ่เลยเป็นปัจจัยที่ต้องพิจารณาให้มากเช่นกัน

การเดินทาง

ขึ้นชื่อว่าติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน การเดินทางย่อมสะดวกสบายอยู่เเล้ว ไปไหนมาไหนก็ขึ้นทางด่วนได้เลย

ราคา

บ้านที่ติดถนนใหญ่ สามารถเพิ่มมูลค่าได้ในอนาคต ด้วยความสะดวกสบายที่เข้าถึงได้ง่าย จึงมีผู้คนจำนวนมากที่ต้องการบ้านติดถนนใหญ่

พบกับบ้านเดี่ยวหรู จาก CMC อย่างโครงการ The Rich Rama II บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ยุโรป บนถนนพระราม 2 คุ้มค่าด้วยพื้นที่ใช้สอย 389 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องนํ้า 2 ที่จอดรถ เริ่มต้น 28 ลบ.*
สนใจลงทะเบียน : https://bit.ly/431EPlr

ที่สุดแห่งทําเลศักยภาพ ที่เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก

CMC We Care เพราะเราใส่ใจ… ทุก “ความสุข” ของคุณ

5 เคล็ดไม่ลับ เปลี่ยนบ้านรกให้เป็นระเบียบ

5 เคล็ดไม่ลับ เปลี่ยนบ้านรกให้เป็นระเบียบ

ปัญหาเรื่องบ้านรกเป็นปัญหากวนใจสำหรับใครหลายๆคน และเป็นปัญหาที่แก้ไขได้ยาก เพราะไม่ว่าจะเก็บกวาด ทำความสะอาดบ้านเท่าไหร่ ไม่นานก็กลับมารกรุงรังอีกครั้ง อีกทั้งความรกของบ้านยังส่งผลต่อสภาพจิตใจของผู้อยู่อาศัยในทางลบอีกด้วย
CMC We Care จึงได้รวบรวม “5 เคล็ดไม่ลับ เปลี่ยนบ้านรกให้เป็นระเบียบ” มาให้ลูกบ้านของเราได้นำไปใช้เพื่อเปลี่ยนบ้านรกเป็นบ้านที่โล่ง มีระเบียบ สะอาดและถูกสุขลักษณะ เพื่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดียิ่งขึ้นค่ะ
1. จัดหมวดหมู่สิ่งของ
ควรแยกประเภทสิ่งของไม่ให้ปะปนกัน แล้วนำไปจัดเก็บในสัดส่วนพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ จะทำให้สิ่งของถูกจัดเก็บเป็นระเบียบและนำมาใช้ได้ง่ายขึ้น เช่น หมวดเสื้อผ้า หมวดหนังสือ หมวดของใช้ทั่วไป เป็นต้น
2. จัดลำดับความสำคัญในพื้นที่จัดเก็บ
จะช่วยให้นำสิ่งของออกมาใช้ได้ง่ายขึ้น โดยสิ่งของที่ใช้งานบ่อยควรจัดวางในพื้นที่หยิบได้ง่าย ส่วนของที่ไม่ได้ใช้ประจำให้จัดเก็บในพื้นที่ด้านในสุด เช่น สิ่งของที่ใช้ประจำอาจจะเก็บในลิ้นชักชั้นบนสุด ส่วนที่ไม่ได้ใช้งานบ่อยอาจจะวางในลิ้นชักชั้นล่างสุด เป็นต้น
3. รู้จักทิ้งของที่ไม่ Spark Joy แล้ว
มาจากแนวคิดของ คนโด มาริเอะ ผู้เขียนหนังสือทฤษฎีจัดบ้านชื่อดังชาวญี่ปุ่น ได้ให้แนวคิดที่เรียกว่า จุดประกายความสุข (Spark Joy) คือ ให้ลองหยิบจับสิ่งของทีละชิ้นดู ถ้ายังชอบและรู้สึกดีกับของชิ้นนั้นอยู่ก็ให้เก็บไว้แต่ถ้าไม่ก็ต้องยอมทิ้งไป จะช่วยในเรื่องการจัดระเบียบบ้านได้มากยิ่งขึ้น
4. เลือกเก็บเฉพาะของที่จำเป็นหรือได้ใช้งานจริงๆ
ต่อจากข้อที่แล้วถ้าหากหยิบจับสิ่งของชิ้นไหนก็ Spark Joy ไปหมด ไม่อยากจะทิ้งสักอย่างจนของล้นบ้าน สิ่งที่ต้องทำต่อไปก็คือดูว่าของเหล่านั้นมีความจำเป็นไหม และได้ใช้งานจริงในชีวิตประจำวันหรือเปล่า ถ้าหากไม่ก็ต้องทำใจและยอมทิ้งไปเพื่อลดความรกรุงรัง สร้างความเป็นระเบียบในบ้านมากขึ้น
5. สร้างนิสัยการจัดเก็บสิ่งของให้เป็นระเบียบอยู่เสมอ
เพราะต่อให้เราจะทำการรื้อของมาจัดระเบียบใหม่อีกกี่ครั้ง บ้านก็กลับมารกได้ใหม่เสมอ ดังนั้นเพื่อที่จะทำให้บ้านเป็นระเบียบ น่าอยู่อย่างถาวร ผู้พักอาศัยต้องสร้างนิสัยการจัดเก็บให้เป็นระเบียบอยู่เสมอ เช่น หยิบส่งของมาจากตรงไหนใช้เสร็จแล้วก็เก็บคืนที่เดิม หรือการซื้อของมาเพิ่มก็ควรนำมาจัดเก็บตามหมวดหมู่ของเดิมที่จัดไว้ เป็นต้น
จากทั้งหมดที่ได้กล่าวมา คงจะเห็นแล้วว่าการจัดระเบียนบ้านนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลย เพียงแต่ต้องอาศัยวินัยและความตั้งใจ เพราะบ้านเป็นที่ๆเราอาศัยอยู่มีการหยิบใช้สิ่งของและซื้อของเข้ามาใหม่เป็นประจำ จึงจำเป็นต้องมีวินัยในการจัดเก็บให้เป็นระเบียบอยู่เสมอ เพื่อบ้านที่มีระเบียบและน่าอยู่อย่างถาวรค่ะ
CMC We Care เพราะเราใส่ใจ… ทุก “ความสุข” ของคุณ

รวมผักสวนครัว ปลูกง่ายในคอนโด สายคลีนต้องเลิฟ

รวมผักสวนครัว ปลูกง่ายในคอนโด สายคลีนต้องเลิฟ

แม้ว่าชาวคอนโดจะมีพื้นที่จำกัดในการปลูกต้นไม้หรือผักสวนครัวในแบบที่ต้องการ ต่างกับบ้านเดี่ยวหรือทาวน์เฮ้าส์ที่มีพื้นที่โดยรอบให้ทำการปลูกได้ตามใจชอบ แต่อย่างไรก็ตามสำหรับลูกบ้าน CMC สายคลีน สายออแกนิก ที่ต้องการจะปลูกพืชผักสวนครัวปลอดสารพิษ ไว้ทำอาหารเอง ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปค่ะ
วันนี้ CMC We Care ได้รวบรวมผักสวนครัวที่ปลูกง่าย โตเร็ว ที่สำคัญใช้พื้นที่ไม่เยอะในการปลูกและไม่ต้องการแสงแดดมาก เช่น มุมระเบียง มุมริมหน้าต่าง มาแนะนำให้ลูกบ้านของเราค่ะ
1. ถั่วงอก
เป็นผักที่ปลูกได้ง่าย ใช้พื้นที่น้อย และไม่จำเป็นต้องได้รับแสงแดด เพียงแช่เมล็ดถั่วเขียวไว้ 1 คืน จากนั้นนำไปปลูกในภาชนะที่เตรียมไว้ รองด้วยทิชชู่ ฟองน้ำ หรือผ้า คอยรดน้ำเช้าเย็นให้ชื้นและหาอะไรทับไว้ เพียงเท่านี้ก็จะได้ต้นถั่วงอกอวบกรอบ อร่อยน่าทาน
2. ต้นอ่อนทานตะวัน
สามารถปลูกได้ง่ายเช่นเดียวกับถั่วงอก เพียงนำเมล็ดไปแช่น้ำประมาณ 7 ชั่วโมง จากนั้นบ่มเมล็ดอีกประมาณ 12 ชั่วโมง แล้วนำมาปลูกลงดินในภาชนะที่เตรียมไว้ ใช้เวลาเพียง 7 วัน ต้นอ่อนทานตะวันก็จะเติบโตให้เก็บมารับประทานได้
3. ผักบุ้ง
ผักบุ้งเป็นผักที่ชอบน้ำ แนะนำให้ปลูกที่ระเบียงห้องช่วงหน้าฝน เพื่อช่วยให้ผักบุ้งเติบโตได้ดีและประหยัดเวลาลดน้ำ สามารถปลูกได้โดยตัดช่วงโคนต้นที่ติดราก นำไปแช่น้ำ 1-2 วัน เมื่อสังเกตุเห็นรากที่งอกขึ้นใหม่ ให้นำไปปลูกลงดินในกระถาง รอให้เติบโตประมาณ 2 สัปดาห์ก็สามารถเก็บมารับประทานได้
4. กระเพรา
ต้นกระเพราะสามารถปลูกและดูแลได้ง่าย เป็นพืชที่ตนต่อทุกสภาพอากาศ แต่ถ้ารดน้ำเป็นประจำก็จะทำให้เร่งเติบโตงอกงาม สามารถปลูกได้ทั้งจากการเพาะเมล็ดและตัดกิ่งมาปักชำ และยังเป็นผักยอดฮิตในการทำอาหารไทย เช่น ผัดกระเพราะ เป็นต้น
5. โหระพา
เป็นผักที่ปลูกง่าย ดูแลไม่ยาก มีวิธีปลูกเช่นเดียวกับต้นกระเพรา เป็นพืชที่ไม่ชอบแสงแดดมาก อาจจะต้องวางไว้บริเวณพื้นที่ที่โดนแสงแดดน้อย เพื่อเลี่ยงไม่ให้ต้นโหระพาเหี่ยวเฉา
6. ผักชี
วิธีปลูกสามารถใช้โคนต้นผักชีที่มีรากติดไปแช่น้ำ เมื่อเห็นรากแตกยอดใหม่เรื่อยๆ ค่อยย้ายไปปลูกลงดินในกระถาง แล้วนำไปวางไว้ที่แสงแดดส่องถึงเล็กน้อย จากนั้นเพียงคอยรดน้ำวันละครั้ง ต้นผักชีก็จะสามารถเติบโตมาให้เราเก็บไปใช้ทำอาหารได้
สำหรับลูกบ้าน CMC หัวใจสีเขียว ที่ต้องการปลูกผักสดๆไว้รับประทานเองง่ายๆ อย่างมีคุณภาพ ไร้สารตกค้างและสารปนเปื้อน สามารถเลือกปลูกผักสวนครัวชนิดต่างๆตามที่ CMC We Care ได้เลือกมาแนะนำให้นี้เลยค่ะ รับรองปลูกง่าย ดูแลไม่ยากแน่นอนค่ะ

10 item แต่งห้องสไตล์มินิมอล มินิใจ ควรมีไว้ติดคอนโด

10 item แต่งห้องสไตล์มินิมอล มินิใจ ควรมีไว้ติดคอนโด

การแต่งคอนโดสไตล์มินิมอล(Minimal) เป็นการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น มีพื้นที่โล่ง ปลอดโปร่ง คุมโทนเฟอร์นิเจอร์และสิ่งของทุกอย่างด้วยโทนสีอ่อนหรือสีเอิร์ทโทน เช่น สีขาว สีครีม สีเนื้อ สีน้ำตาล หรืออาจจะมีแต่งเติมสีอื่นบ้างที่ไม่ฉูดฉาดจนเกินไป โดยความนิมิมอลนั้นจะต้องมีความสมดุล ให้มองดูน้อย เรียบง่าย สะอาด สงบ และสบายตา วันนี้ CMC We Care จึงอยากจะเอาใจลูกบ้านชาว minimalist ด้วยไอเท็มเด็ด ดีไซน์เรียบง่าย ที่จะช่วยเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานในคอนโด ให้ลูกบ้าน CMC ได้เลือกนำมาตกแต่งเพิ่มความมินิมอลกันถึง 10 ไอเท็ม ดังต่อไปนี้ค่ะ
1. รูปภาพหรือโปสเตอร์ติดผนัง
การตกแต่งผนังคอนโดด้วยรูปภาพหรือโปสเตอร์จะช่วยเพิ่มสมดุลความเป็นนิมิมอลเพิ่มมากขึ้น รูปที่ควรเลือกมาติดควรเป็นโทนสีอ่อนหรือเอิร์ทโทนเพื่อให้เข้ากับตีมความมินิมอล หรืออาจจะใช้รูปถ่ายของตัวเองที่แสง สีไม่ฉูดฉาดจนเกินไป เข้ากับความมินิมอลมาติดเพื่อเก็บเป็นความทรงจำดีๆก็ได้เช่นกัน
2. วางกระจกตั้งพื้น
กระจกเป็นไอเท็มที่ให้ประโยชน์ทั้งการเอาไว้ส่องและถ่ายรูปตามเทรนด์ฮิตในยุคนี้อย่างการถ่ายรูปหน้ากระจก ซึ่งปัจจุบันมีกระจกหลายรูปร่างที่สวยงามให้เลือกซื้อกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็น วงรี วงกลม ทรงหัวโค้งมน รูปก้อนเมฆหรือรูปแบบอื่นอีกมากมายให้เลือกใช้ นอกจากนนี้กระจกยังเป็นตัวช่วยในการทำให้คอนโดดูกว้างและปลอดโปร่งขึ้น และยังช่วยสะท้อนมุมสวยๆที่เราจัดไว้ในห้องอีกด้วย
3. ต้นไม้พร้อมกระถางสวยๆ
ต้นไม้ช่วยสร้างความผ่อนคลายในห้อง ช่วยเสริมคอนเซ็ปต์มินิมอลที่ สงบ สะอาดและสบายตาได้ดี โดยมีต้นไม้ที่เหมาะแก่การปลูกในบ้านหรือคอนโดมากมาย เช่น กลุ่มต้นไม้มงคล ต้นไม้ฟอกอากาศ หรือต้นไม้เล็กๆอย่างกระบองเพชร เป็นต้น นอกจากนี้สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเมื่อจะนำต้นไม้มาแต่งห้องให้มีความมินิมอลคือ การเลือกกระถางต้นไม้ ซึ่งเป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้ เพราะถ้าเลือกผิดก็อาจจะทำให้มู้ดเปลี่ยนไปเลยก็ได้ โดยกระถางที่ควรเลือก ควรเป็นสีอ่อน เช่น สีขาว สีครีม หรือใช้กระถางสานจากไม้ก็ได้เช่นกัน
4. โซฟาทรงเรียบๆ
สำหรับชาวมินิมอลลิสต์นั้นการเลือกโซฟาควรจะใช้ทรงเรียบๆ ตกแต่งน้อยๆ และมีขนาดเล็ก เพื่อไม่ให้เกะกะพื้นที่และเหลือที่ให้เป็นที่โล่ง อาจจะเลือกได้หลายรูปทรงเช่น ทรงเหลี่ยมหรือทรงโค้ง ตามใจชอบ และสีของโซฟาควรจะเป็นสีโทนอ่อน เช่น สีขาว สีครีม สีเนื้อ เพื่อตอบโจทย์ความมินิมอล
5. วางแจกันตกแต่ง
การเลือกแจกันที่ออกแบบมีสไลต์เข้ากับความมินิมอลมาตกแต่งจะช่วยให้การตกแต่งสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น อาจจะเลือกแจกันสีขาวสลับกับสีเอิร์ทโทนมาจัดวางในบ้านหรือคอนโด และสามารถหาใบไม้หรือดอกไม้ที่สีไม่ฉูดฉาดเกินไปมาวางในแจกัน เพื่อเพิ่มสีสันต์เล็กๆ น้อยๆ ได้ด้วยเช่นกัน
6. ตระกร้าสาน
ไอเท็มที่ใช้เก็บของจิปาถะที่น่าสนใจสำหรับชาวมินิมอลลิสต์คงหนีไม่พ้นตระกร้าสานที่มีสีไม้เป็นสีเอิร์ทโทนจากธรรมชาติ ไม่ต้องตกแต่งลวดลายอะไร ก็สวยได้ด้วยตัวเอง สามารถวางได้หลายจุดในคอนโดที่ต้องการใช้เป็นที่เก็บของ เช่น ข้างเตียง หน้าทีวีหรือวางข้างโซฟา เป็นต้น
7. นาฬิกาแขวนผนัง
นาฬิกาเป็นไอเท็มสำคัญที่ใช้ในการบอกเวลา เป็นตัวช่วยในการจัดสมดุลเวลาของผู้อยู่อาศัย เช่นไม่ให้เข้านอนดึกเกินไป หรือออกไปทำงานช้าเกินไป การใช้นาฬิกาติดผนังสำหรับสไตล์มินิมอลจะช่วยสร้างสมดุลไม่ให้ผนังคอนโดโล่งจนเกินไป โดยเลือกใช้นาฬิกาเรือนที่ตกแต่งน้อยและใช้สีโทนอ่อนหรือสีเอิร์ทโทน เช่น นาฬิกาขาวกรอบไม้ เป็นต้น
8. ผ้าม่าน
เพราะม่านแบบผ้ามีคุณสมบัติในการระบายอากาศ อีกทั้งความพริ้วไหวของผ้าม่านยังทำให้เกิดความอ่อนโยนและละมุนขึ้น ทำให้รู้สึกถึงความสงบและสบาย โดยสีของผ้าม่านที่ควรเลือกใช้ควรเป็ยสีเอิร์ทโทนหรือสีโทนอ่อนเข้ากับสไตล์มินิมอล และยังช่วยให้ไม่ดูดแสงและความร้อนจากภายนอก ทำให้ภายในเย็นสบายขึ้น
9. โคมไฟ
โคมไฟเป็นไอเท็มฮิตที่ถูกเลือกใช้ในการแต่งห้องทุกสไตล์ ทั้งนี้การแต่ห้องของชาวมินิมอลลิสต์ควรจะต้องเลือกโคมไฟที่มีรูปร่างที่ดูเรียบๆ มีความน้อยแต่มาก ใช้สีโทนอ่อนหรือสีเอิร์ทโทน เช่น สีขาว สีเบจ สีน้ำตาล เป็นต้น
10. พรม
เนื่องจากการตกแต่งแบบมินิมอลสไตล์ เราต้องการที่มีพื้นที่ปล่อยโล่ง การเลือกใช้พรมมาวางพื้นที่โล่งนี้จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่จะช่วยให้ความมินิมอลนี้เกิดความสมดุลมากขึ้น โดยการเลือกประเภท รูปร่างและสีของพรม อาจจะต้องดูเฟอร์นิเจอร์อื่นๆรอบข้างประกอบ เพื่อให้เกิดความสมดุลและเข้ากันได้ดี เป็น minimal style ที่สมบูรณ์แบบที่สุด
ครบแล้วกับ 10 ไอเท็มจุๆให้ลูกบ้าน CMC ที่รักความมินิมอลได้เลือกนำไปใช้ตกแต่งห้อง ลูกบ้านถูกใจไอเท็มไหนสามารถเลือกนำไปได้เลยค่ะ
CMC We Care เพราะเราใส่ใจ… ทุก “ความสุข” ของคุณ