สำหรับผู้ป่วยโรคภูมิแพ้นั้นอากาศภายในบ้านสำคัญมาก จึงต้องมีการจัดการระบบความสะอาดของที่พักอาศัยและระบบระบายอากาศที่ดี ดังนั้น เราจึงต้องรู้ “วิธีเลือกเครื่องอากาศสำหรับผู้ป่วยโรคภูมิแพ้” เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันการเกิดอาการกำเริบของผู้ป่วย และลดอัตราการถูกกระตุ้นต่อโรคแถมยังประหยัดไฟอีกด้วย
โรคภูมิแพ้ มีหลายประเภทมากและเป็นโรคที่มักเกิดเด็ก แต่ในขณะเดียวกันโรคภูมิแพ้ก็สามารถเกิดขึ้นในผู้ใหญ่ได้ด้วย โรคภูมิแพ้นั้นเกิดจากการที่ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายตอบสนองต่อสารบางอย่าง ซึ่งเรียกว่า “สารก่อภูมิแพ้” โดยสารก่อภูมิแพ้นั้นสามารถพบได้ทั่วไป เช่น ฝุ่น ละอองต่างๆ ไรฝุ่น หรืออาจจะในอาหารและบางครั้งอาจพบในยารักษาโรคต่างๆ ซึ่งผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ ร่างกายจะตอบสนองสารก่อภูมิแพ้ว่าเป็นสารอันตราย จึงทำให้ร่างกายพยายามที่จะกำจัดสารเหล่านั้นออกและทำให้เกิดอาการแพ้ตามมา โดยอาการแพ้สามารถเป็นได้ตั้งแต่เล็กจนถึงอาการรุนแรงและอาจรุนแรงถึงขั้นอันตรายต่อชีวิต
ปัจจุบัน จะเห็นได้ว่าตอนนี้อากาศของเรานั้นไม่ค่อยดีนัก ในอากาศมีสิ่งเร้าที่ทำให้เกิดอาการแพ้ได้ นอกจากที่จะต้องคอยรักษาความสะอาดของที่พักอาศัยแล้ว เรายังต้องมีการจัดการระบบอากาศที่ดีไว้ในที่พักอาศัย เพื่อป้องกันการเกิดภูมิแพ้ และทำให้ลดอัตราการกำเริบของอาการภูมิแพ้ของผู้ป่วย เนื่องจากเราไม่อาจที่จะหลีกหนีตัวตนไปอยู่ในที่อากาศบริสุทธิ์ได้
1.ที่พักของเราควรมี ช่องทางที่ทำให้อากาศสามารถถ่ายเทได้สะดวก หากที่พักอาศัยไม่มีหน้าต่าง หรือช่องทางระบายอากาศใดๆ เลย ควรติดตั้งพัดลมระบายอากาศ เพราะจะทำให้การแพร่พันธุ์ของแบคทีเรียต่าง ๆ ลดน้อยลง
โครงการ ชาโตว์ อินทาวน์ จรัญสนิทวงศ์ 96/2 มีการตกแต่งห้องให้สามารถระบายอากาศดี
2. ควรมีเครื่องฟอกอากาศที่ดี เครื่องฟอกอากาศ นั้นถือว่าจำเป็นมาก สำหรับผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ เพราะเราไม่สามารถที่จะมองเห็นได้ว่า ในอากาศที่เราอาศัยอยู่มีอะไรปนเปื้อนอยู่หรือไม่ เพราะฉะนั้น เครื่องฟอกอากาศนั้นจะมาช่วยในการกรองสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ในอากาศ ทำให้ปลอดภัยจากสารก่อภูมิแพ้มากขึ้น
โครงการ ชาโตว์ อินทาวน์ จรัญสนิทวงศ์ 96/2 มีการติดตั้งเครื่องปรับอากาศที่เหมาะสม
3. เครื่องปรับอากาศที่ดี ควรเป็นเครื่องปรับอากาศที่ดีและมีระบบกรองอากาศในตัว เพราะจะช่วยป้องกันจากฝุ่นพิษขนาดเล็กได้ ตัวอย่างเช่น เครื่องปรับอากาศ ที่มีระบบ NANO-G ซึ่งปล่อยไอออนที่จะเข้ายึดเกาะฝุ่นละอองที่มีอนุภาคขนาดเล็ก (PM2.5) และสามารถกำจัดแบคทีเรียในอากาศได้มากถึง 99% แถมยังประหยัดไฟมากอีกด้วย
อ้างอิงจาก www.panasonic.com
อ้างอิงจาก www.panasonic.com
อ้างอิงจาก www.panasonic.com
ควรติดตั้งไว้ในจุดที่ทำให้สามารถกระจายลมได้ทั่วทั้งห้อง และหลีกเลี่ยงจุดติดตั้งที่มีสิ่งกีดขวางการหมุนเวียนของอากาศ เพื่อให้ภายในห้องเย็นได้อย่างทันใจ อย่างห้องที่เป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ไม่ควรติดตั้งไว้กลางห้อง เพราะจะทำให้ไม่สามารถกระจายลมเย็นได้อย่างทั่วถึง หรือ ไม่ควรติดตั้งไว้ใกล้กับบริเวณตู้เสื้อผ้าที่มีความสูงเพราะจะทำให้บดบังทางหมุนเวียนของอากาศ หลีกเลี่ยงการติดตั้งชิดกกับผนังในฝั่งที่โดนแดดจัดเพราะทำให้ได้รับความร้อนจากภายนอกได้ง่าย จะส่งผลกระทบกับเซ็นเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิให้วัดอุณหภูมิห้องผิดเพี้ยน ซึ่งจะทำให้เครื่องปรับอากาศต้องทำงานหนักเพื่อปรับอุณหภูมิให้เย็นขึ้นอยู่ตลอดเวลา
หากเป็นไปได้ ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศและเครื่องปรับอากาศในทิศตรงข้ามกัน
จากรูป จะเห็นได้ว่า เครื่องปรับอากาศ ดูดอากาศจากด้านล่าง และปล่อยอากาศออกทางด้านหน้า และเครื่องฟอกอากาศรับอากาศจากด้านบนและปล่อยออกด้านหน้าจากพื้น ดังนั้นแล้วการติดตั้งแบบนี้จะทำให้อากาศภายในห้องหมุนเวียนมากขึ้น และสะอาดมากขึ้นแถมยังทำให้ทั้งสองเครื่องทำงานน้อยลงและยาวนานขึ้น เนื่องจาก เครื่องปรับอากาศดูดอากาศเข้ามาและทำการกรองและปล่อยออกมา เครื่องฟอกอากาศจึงดูดอากาศและสิ่งที่เหลือรอดจากการกรองของเครื่องปรับอากาศ และทำการกรองออก และปล่อยออกมาก วนรอบทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ดังนั้น จึงทำให้อากาศสะอาดมากยิ่งขึ้น
อ้างอิงจาก : Panasonic.com และ powerbuy.co.th
สอบถาม หรือ ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษก่อนใคร!
Call Center : 1172 กด 99 หรือ 090-687-9696
Website : www.cmc.co.th/chateauintown/charan96
Line@ : line.me/R/ti/p/%40chateauintown