จรัญฯ-ปิ่นเกล้า เป็นทำเลที่มีลักษณะเป็นชุมชนเก่าแก่ที่มีประชากรอยู่ค่อนข้างหนาแน่น การจราจรจึงติดขัดตามไปด้วย สภาพแวดล้อมเป็นตึกแถวและอาคารพาณิชย์มีความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างสูง มีตลาดสดแทรกตัวอยู่หลายแห่ง เพราะฉะนั้นเรื่องหาของกินจึงไม่น่าเป็นห่วง มีศูนย์การค้าและ Hypermarket อยู่บ้าง แต่รวมๆ แล้วอาจจะยังไม่เจริญเท่าตัวเมืองชั้นใน บางทำเลมีชุมชนริมแม่น้ำซึ่งนอกเหนือจากคมนาคมทางบนแล้ว ชาวบ้านยังสามารถใช้การคมนาคมทางน้ำได้อีกด้วย ซึ่งสาเหตุที่แต่เดิมทำเลย่านนี้มีลักษณะเป็นชุมชนเนื่องจากแต่เดิมชาวบ้านจะนิยมทำเลที่ใกล้แม่น้ำเอาไว้ใช้ทำเกษตรกรรมและเดินทางทางน้ำ แต่ปัจจุบันการใช้ชีวิตของเราเปลี่ยนไปเป็นใช้รถใช้ถนนเป็นหลัก ผู้คนจึงนิยมมากระจุมตัวอยู่ตามทำเลที่มีรถไฟฟ้าแทน
หลังจากมีโครงการรถไฟฟ้าทำเลนี้ก็เริ่มเนื้อหอมขึ้นมาทันที เริ่มที่คอนโดมาขึ้นและมีนายทุนเข้ามาขอซื้อแนวตึกแถวเก่า ปั๊มน้ำมันเก่า ถ้าลองสังเกตุดูจะเห็นแปลงที่ดินว่างๆ หลายแปลงล้อมสังกะสี ซึ่งน่าจะมีการพัฒนาเป็นโครงการใหม่ๆ ในอนาคต บริเวณที่ผู้พัฒนาโครงการสนใจเป็นพิเศษคือ บริเวณแยกใหญ่ๆ เช่น แยกสิริธร แยกปิ่นเกล้า ในขณะเดียวกันราคาที่ดินและราคาอสังหาริมทรัพย์ในทำเลนี้ก็ปรับตัวสูงขึ้นตาม โดยคอนโดมิเนียมเจ้าใหญ่ที่เพิ่งเปิดตัวบนนถนนจรัญสนิทวงศ์ มีราคาสูงกว่า 100,000 บาทต่อตารางเมตรแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงการอาคารสูง แต่โครงการที่เป็นอาคารสูงเพียง 8 ชั้น ของบริษัทฯที่มีประสบการณ์ในการทำอาคาร 8 ชั้น คือ โครงการชาโตว์ อินทาวน์ จรัญสนิทวงศ์ 96/2 อยู่ภายในซอยจรัญสนิทวงศ์ 96/2 เป็นโครงการคอนโดมิเนียม Low Rise แบบ 2 อาคาร ที่มีแนวคิดการออกแบบ Nature Modern ที่มีแนวคิดการออกแบบเน้นการอยู่ร่วมกับธรรมชาติ ตอบสนองวิถีคนเมืองที่โหยหาธรรมชาติและความสงบร่มรื่นอยู่ในวงล้อมของเทคโนโลยี ห่างไกลมลพิษฝุ่นควันและสิ่งอำนวยความสะดวก ในทำเลใกล้ทางด่วนศรีรัช และสถานที่ MRT บางอ้อ สัมผัสวิว 360 องศาและวิวแม่น้ำเจ้าพระยา และมีจำนวนยูนิตเพียง 406 ยูนิตเท่านั้น ราคาเริ่มต้นเพียงตารางเมตรละ 80,000 เศษๆ เท่านั้น
แต่เดิมการเดินทางในย่านนี้ค่อนข้างลำบากเนื่องจากถนนจรัญสนิทวงศ์เป็นถนนที่ยาวมากและมีไฟแดงเยอะ ไม่ค่อยมีแยกให้ระบายรถติดซักเท่าไหร่ โดยจรัญสนิทวงศ์ตอนปลายรถจะติดน้อยกว่าตอนต้นเนื่องจากมีแยกใหญ่ๆ เช่น แยกปิ่นเกล้า แยกสิริธร ช่วยในการระบายรถติด และสะพานข้ามฟากไปฝั่งพระนคร เช่นสะพานปิ่นเกล้า สะพานกรุงธนฯ สะพานพระราม 7 เป็นต้น ต่อมามีการตัดถนนพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 เชื่อมระหว่างถนนจรัญสนิทวงศ์ไปจนถึงถนนกาญจนาเลย ซึ่งสามารถช่วยระบายการเจรจาถนนจรัญฯ ไปยังคนที่บ้านอยู่โซนราชพฤกษ์ พุทธมณฑลได้
อีกทั้งยังมีทางด่วนใหม่ ศรีรัช-วงแหวน(หมอชิต-วงแหวนกาญจนาฯ) ใช้เส้นทางไปลงจตุจักรได้ สำหรับการเดินทางด้วยรถสาธารณะนอกจากจะเรียกรถต่างๆ ได้ง่ายแล้ว ตอนนี้ได้มีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ ซึ่งการมาของรถไฟฟ้าสายนี้จะเป็นการช่วยอำนวยความสะดวกด้านการเดินทางให้ชาวจรัญฯและชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียง หลังจากการมาของรถไฟฟ้าในช่วง 1-2 ปีนี้ก็เริ่มมีโครงการมาขึ้นกันอย่างต่อเนื่อง ราคาปรับขึ้นเรื่อยๆ จนในปัจจุบันก็มีราคาต่อตารางเมตรเกือบๆ แสนกันจะหมดแล้ว
รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ
นอกจากตัวช่วยในการเดินทางอย่างรถไฟฟ้าแล้ว เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของพื้นที่ทำเลนี้คืออยู่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้มีตัวช่วยในการเดินทางด้วยเรือด่วนเจ้าพระยาเพิ่มเข้ามาด้วย ก็ช่วยทุ่นเวลา ไม่ให้เราต้องอยู่ยนท้องถนนนานนัก
ท่าเรือหวังหลัง
จุดเด่นของทำเลนี้คือ มีตลาดค่อนข้างเยอะ แทบจะทุกจุดของชุมชน มีตลาดริมแม่น้ำที่สำคัญ คือ ตลาดวังหลัง ตั้งอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลศิริราช ซึ่งมีท่าเรือให้ชาวบ้านเลือกใช้สัญจรกัน ตลาดกรุงธนฯ ตลาดเก่าแก่มีทั้งของสดของแห้ง ราคาย่อมเยา ตลาดบางขุนนนท์ และตลาดบางขุนศรี เป็นต้น
อีกความเจริญใหม่อีกจุดหนึ่งคือ แยกปิ่นเกล้า โดยเส้นนี้มีศูนย์การค้า และ Hypermarket อยู่เยอะที่สุด ถือเป็นแหล่งช้อปปิ้งของชาวจรัญฯ เลยทีเดียว ได้แก่ พาต้า, Tesco Lotus ปิ่นเกล้า, เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า และ The Sense ปิ่นเกล้าและ
ถ้าเลยไปทางถนนราชพฤกษ์ก็จะมี Community mall และร้านอาหารอยู่หลายร้าน นอกจากนั้นยังเป็นแยกที่ใช้เดินทางข้ามสะพานปิ่นเกล้าไปทางถนนราชดำเนินซึ่งก็เป็นแหล่งที่มีมหาวิทยาลัย และหน่วยงานราชการอยู่จำนวนมาก ซึ่งทั้งนักเรียน นักศึกษา อาจารย์ ก็นิยมมาหาที่พักบริเวณปิ่นเกล้า เนื่องจากบนถนนราชดำเนินเป็นเขตที่อยู่ใกล้วัง จึงไม่สามารถสร้างอาคารสูงๆ ได้
CMC Group รับ “รางวัลชนะเลิศคอนโดมิเนียมด้านการออกแบบสถาปัตยกรรมยอดเยี่ยม (กรุงเทพฯ) Best Affordable Condo Architectural Design ” และ “รางวัลยกย่องพิเศษคอนโดมิเนียมด้านการออกแบบตกแต่งภายใน (กรุงเทพฯ) Highly Commended Best Condo Interior Design”
โครงการ THE CUVEE TIWANON
1.หาค่าผ่อนที่ไม่เกินตัว ด้วย “หลักสัดส่วนหนี้ต่อรายได้(DTI)”
ห้ามเกิน 36% ของรายได้ ถ้าก่อหนี้อื่นไว้ 30% คุณจึงผ่อนบ้านได้ไม่เกิน 6-10% เท่านั้น
คุณจึงต้องไปลดหนี้อื่นลงก่อน
2.หาต้นเงินที่ต้องผ่อน ด้วย “ต้นเงิน-อายุสัญญากู้”
บ้านผ่อนได้ 30 ปี คอนโด 25 ปี อายุผู้กู้ไม่เกิน 60-65 ปี
สมมติอายุ 30 กู้คอนโด 1 ล้าน = 1m หาร 25 = 40,000 ต่อปี = ผ่อนต้น 3,333 ต่อเดือน
3.หาดอกเบี้ยที่ต้องผ่อน ด้วย “ต้นเงินx%ดอกต่อปี”
คอนโด 1 ล้าน ณ ดอกเบี้ยเต็ม (-MRR หรือ MLR แล้ว) 6% ต่อปี = 1.5mx6%
= 60,000 ต่อปี = ผ่อนดอก 5000 ต่อปี
4.เทียบค่าผ่อนต้น+ดอก ควรต่ำกว่า DTI แล้วจะผ่อนรอด
(ดีที่สุดคือทำให้ต่ำกว่าสัดส่วน 25% แล้วเอาเงินส่วนต่างมาออมเผื่อฉุกเฉิน หรือจะโปะบ้านเพิ่มก็ได้)
5.เจอดอกเบี้ยช่วงโปรไม่เท่ากัน ให้”หาค่าเฉลี่ยต่อปี”ก่อน
เอาดอกแต่ละปี บวกกันแล้วหารจำนวนปีที่ได้โปร
เช่น โปร 3 ปี ปีแรก 1 ปีสอง 1.5 ปีสาม 1.7 = 1+1.5+1.7 หาร 3 = 1.4% ต่อปี
แล้วระยะเวลากู้ที่เหลือหลังพ้นโปร ให้เลือกดอกที่ถูกกว่า เพราะระยะเวลาที่ยาวทำให้ต้องเสียดอกเบี้ยเยอะ)
อ้างอิงจาก ผึ้งน้อยพเนจร สมาชิก Pantip
คอนโด ชาโตว์ อินทาวน์ จรัญสนิทวงศ์ 96/2
เปลี่ยนชีวิต…ให้ชิดธรรมชาติ ใจกลางจรัญฯ @ชาโตว์ อินทาวน์ จรัญสนิทวงศ์ 96/2 คอนโดพร้อมอยู่ ใกล้รถไฟฟ้า MRT บางอ้อ และทางด่วนศรีรัช และ ท่าเรือพระราม7 ให้คุณสัมผัสธรรมชาติ 360 องศา รูปแบบ Green concept วิวแม่น้ำเจ้าพระยา
สอบถาม หรือ ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษก่อนใคร!
Call Center : 1172 กด 99 หรือ 090-687-9696
Website : www.cmc.co.th/chateauintown/charan96
Line@ : line.me/R/ti/p/%40chateauintown
ข้อมูลจาก : thinkofliving.com